ดอกอังกาบ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Barleria cristata L.
วงศ์ : ACANTHACEAE
กรรณิการ์
ชื่อวิทยาศาสตร์: Nyctanthes arbortristis Linn.
ชื่อสามัญ: กรรณิการ์ ( Night blooming jasmine)
เรื่องราวของดอกกรรณิการ์ มีมากมาย ดอกกรรณิการ์ มีลักษณะโดดเด่นคือก้านดอกเป็นสีแสด ดังที่มีกล่าวไว้ในกาพย์ห่อโคลง นิราศธารโศกของเจ้าฟ้ากุ้ง
ดอกกรรณิการ์ใช้ย้อมผ้ากันมานาน ตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธองค์กำหนดให้พระภิกษุทั้งหลาย ถ้าจะมีเครื่องนุ่งห่ม ให้ไปที่ป่าช้า ให้พิจารณาผ้าที่เค้านำมาห่อศพ เรียกว่าผ้าบังสุกุล พิจารณาว่าใช้ได้หรือไม่ ถ้าพิจารณาแล้วใช้ได้ ก็ดึงผ้าออกมา
อันเป็นประเพณีมาจนถึงปัจจุบัน เจ้าภาพจะเอาผ้าสีเหลืองมาวางใกล้กับโลง เรียกว่า ทอดผ้า ทอดแปลว่า ทิ้ง พระท่านก็จะมาจับผ้าและแสดงอาการพิจารณาผ้าบังสุกุล และกล่าวคำ อนิจจา วัตตาสัง ขารา
สมัยก่อนเมื่อนำผ้ามาแล้วจะต้องซักด้วยน้ำขี้เถ้า จนหมดกลิ่น แล้ว จึงนำมาย้อมด้วยดอกกรรณิการ์ โดยเฉพาะก้านดอก จะได้เป็นสีเหลืองฝาดๆ แล้วค่อยนำไปตัดเย็บเป็นสบง จีวร สังคาติ
ลำดวน
หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “ต้นดวน” เป็นไม้คู่เมือง เกี่ยวโยงกับประวัติศาสตร์เมืองศรีสะเกษมาแต่โบราณ “ลำดวน” ปรากฏในชื่อเมืองเดิมของ จ. ศรีสะเกษ คือ เมืองนครลำดวนหรือเมืองศรีนครลำดวน ซึ่งเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยา เจ้าเมืองศรีนครลำดวนก็ได้รับพระราชทานนามว่า “พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน” นอกจากนี้ยังปรากฏในชื่อบ้านนามเมืองของ จ. ศรีสะเกษอีกหลายแห่ง เช่น บ้านดวนใหญ่ บ้านปราสาทสี่เหลี่ยมดงลำดวน ซึ่งล้วนเป็นชุมชนเก่าแก่มาแต่ครั้งสมัยขอม
ลำดวนเป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ที่มีอายุยืนยาวถึง ๓๐๐ ปี ดอกมีสีเหลืองนวล กลีบดอกเล็กแต่หนา งุ้มเข้าหากัน คล้ายกับดอกนมแมวแต่งามกว่า เริ่มออกดอกในช่วงเดือน ม.ค. และจะส่งกลิ่นหอมเย็นในช่วงเดือน ก.พ. ไปจนถึงเดือน เม.ย. ของทุกปี
ดอกลำดวนจัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง โดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ วิจัยพบว่าเมื่อนำดอกลำดวนไปอบให้แห้ง แล้วนำไปบด ชงกับน้ำร้อนดื่ม จะช่วยบำรุงเลือด แก้ไข้ แก้วิงเวียน
ดอกนมแมว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rauwenhoffia siamensis Scheff.
วงศ์ : ANNONACEAE
ถิ่นเดิม : ภาคใต้ของประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Polianthes tuberosa
วงศ์ : Agavaceae
ชื่อสามัญ : Tuberose
ชื่ออื่น ๆ : :ซ่อนกลิ่น
ข้อมูลทั่วไปและประวัติ :ซ่อนกลิ่นเป็นไม้ในวงศ์เดียวกันกับ
พลับพลึง มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ จะมีกลิ่นหอมตั้งแต่เวลาเย็น
ถึงตอนกลางคืน ใช้ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ มีอายุหลายปี
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพรรณไม้ล้มลุกที่มีหัว ซึ่งเป็น
ลำต้นอยู่ใต้ดิน ลักษณะของหัวจะคล้าย ๆกับหัวหอม ใบมีสีเขียว
เล็กและเรียวยาวใบจะโผล่ออกมาจากพื้นดิน ใบยาวประมาณ
1-1.5 ฟุต ดอกจะชูช่อออกมาตรงกลางกอของลำต้น และ
จะมีดอกเกาะตรงก้านดอกเรียงกันเป็นแนวตามก้านดอก ดอกมีสี
ขาว ดอกยาวประมาณ 1 นิ้ว ช่อดอก หนึ่งๆ จะยาวประมาณ 2-2.5
ฟุต แต่ละข่อดอกจะมีดอกย่อย 40-90 ดอก กลีบดอกแต่ละกลีบจะ
ไม่เท่ากัน กว่า จะบานหมดทั้งช่อใช้เวลา 5-7 วัน และมีกลิ่น
หอมมากโดยเฉพาะเวลากลางคืน
การขยายพันธุ์ : ใช้หัว
ยี่โถเป็นไม้พุ่ม สูง 2-3 เมตร ใบรูปร่างเหมือนปลายหอก มีขนาดไม่ใหญ่นัก แคบและยาว ลำต้นเกลี้ยงๆ เปลือกมีสีเทา กิ่งจะแตกออกเป็นกลุ่มพุ่งขึ้นด้านบน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดจากฝัก ปักชำ หรือการตอนกิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น