วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ชงโค

ชื่อพื้นเมือง : ชงโค

ชื่ออื่น : เสี้ยวดอกแดง (ภาคเหนือ) เสี้ยวหวาน (แม่ฮ่องสอน)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bauhinia blakeana Dunn.

ชื่อสามัญ : Orchid Tree

ชื่อวงศ์ : Caesalpiniaceae

สภาพนิเวศน์ : -

ประโยชน์

ราก ใช้เป็นยาขับลม เปลือก แก้บิด แก้ท้องร่วง

ใบ ต้มรักษาอาการไอ ดอก แก้ไข้ ยาระบาย

ลักษณะทั่วไป

ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูง 10 เมตร ใบเกือบกลม แยกเป็น 2 แฉกลึก ปลายแฉกกลม ช่อดอก

ออกข้าง ๆ หรือปลายกิ่ง 6 -10 ดอก กลีบรองดอกตะแคงข้าง กลีบดอกชมพูถึง

ม่วงเข้่ม กลีบแคบ เกสรตัวผู้ 3 อัน รังไข่มีขน ฝักแตก ฝักยาว 20 -25 ซม. เมล็ดกลม

10 เมล็ด ออกดอกเืดือนกันยายน - กุมภาพันธ์ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและกิ่งตอน



มณฑา : มีชื่ออื่นๆว่า ยี่หุบ จอมปูน จำปูนช้าง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Talauma candollei Bl.
วงศ์ : MAGNOLIACEAE



สายหยุด

ชื่อวิทยาศาสร์ Desmos chinensis Lour.

ตระกูล ANNONACEAE

ชื่อสามัญ Desmos

ลักษณะทั่วไป

ต้น สายหยุดเป็นไม้เถาเลื้อยกึ่งไม้ยืนต้น มีเถาใหญ่แข็งแรงสามารถเกาะเลื้อยพันต้นไม้ หรือกิ่งอื่น ๆ
ไปได้ไกล และมักจะแตกกิ่งก้านสาขามากในบริเวณยอด และจะแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปเป็นบริเวณ
กว้าง กิ่งอ่อนจะมีสีน้ำตาลและมีขนอ่อน ๆ ขึ้นปกคลุมโดยทั่วไป ส่วนกิ่งแก่นั้นจะมีสีดำเป็นมัน ไม่มีขน


ใบ ใบจะออกสลับกันตามข้อต้น ใบจะเป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานแกมรูปหอก ปลายใบแหลมเป็ฯติ่งสั้น
โคนใบมนหรือเว้าเล็กน้อย ใบด้านบนเรียบ ส่วนด้านล่างจะมีขน ขอบใบเรียบ ไม่มีจัก ใบสีเขียวเข้ม
ดอก สายหยุดจะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกแบบตามขอต้นโคนก้านใบ และที่ตาซึ่งติดกับลำต้นลักษณะของ
ดอกเมื่อยังตูมอยู่จะเป็นสีเขียว และเมื่อบานจึงจะเป็นสีเหลือง ดอกจะห้อยลง ดอกมีขนาดเล็ก มีกลีบดอก
5-6 กลีบ แบ่งเป็ฯ 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ และมีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอกจะบิดงอเช่นเดียวกันกับดอกกระ
ดังงาไทย มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจำนวนมากอยู่ภายในดอก ดอกจะมีกลิ่นหอมจัดในตอนเช้าตรู่
พอสายกลิ่นก็จะค่อย ๆ ลดความหอมลง และจะหมดกลิ่นหอมลงเมื่อใกล้เวลาเที่ยงวัน
การปลุก
สายหยุดมีวิธีการปลูก โดยการนำต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ด หรือกิ่งที่ได้จากการตอนมาปลูกลงดิน
หลังปลูกประมาณ 3-4 ปี จึงจะให้ดอก




ชื่อวิทยาศาสตร์ Bovgainvillea hybrid
ชื่อสามัญ Bovgainvillea , Paper Flower
ชื่อวงศ์ Nyctaginaceae
เพื่องฟ้าเป็นไม้รอเลื้อย ลำต้นมีกิ่งมีหนาม ใบเดี่ยว ออกสลับรูปไข่หรือรูปวงรี กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 4-8 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมนหรือสอบ ใบประดับสีต่างๆตามสีของดอก ออกเป็นกลุ่มกลุ่มละ 3 ใบ บางพันธุ์มีใบประดับซ้อน รูปไข่ หรือ รูปรี ค่อนข้างกว้าง ปลายแลโคนมน ดอกมีสีตามพันธุ์เช่น สีแดง ม่วง ชมพู เหลือง หรือขาว ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง กลีบรวมเป็นหลอด คอดตรงกลาง ติดอยู่บนใบประดับแต่ละใบ ยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ปลายหลอดแผ่ออก ภายในกลีบสีนวล เมื่อบานจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.6 เซนติเมตร เกสรตัวผู้ 5-10 อัน ผลมีขนาดเล็ก มี 5 สัน ถิ่นกำเนิดมีที่ อเมริกาใต้ ปลูกได้ทั่วไป ออกดอกตลอดปี
ขยายพันธุ์ เมล็ด ปักชำกิ่ง ตอนกิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น